มัดรวม 8 หัวข้อที่ พ.ร.บ.อากาศสะอาดควรมี
CiCalendar
25 Dec 2023
viewer
10183

อากาศคลีนๆ จากกฎหมายเคลียร์ๆ มัดรวม 8 หัวข้อที่ พ.ร.บ.อากาศสะอาดควรมี


ต้อนรับปีใหม่ 2567 กับความหวังที่ว่าปีนี้พวกเราจะได้เห็นความก้าวหน้าของร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดเป็นของขวัญให้ประชาชนคนไทยและประเทศชาติกันเสียที


ว่าด้วยสาระสำคัญของ “ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …” นี้ หลายคนอาจสงสัยว่ามันควรมีหน้าตาอย่างไร และอะไรบ้างที่ถือเป็นหัวใจหลักเพื่อจะนำมาซึ่งแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษในประเทศไทยในแบบที่ ‘เวิร์คได้จริง’ บทความนี้เรารวม 8 ประเด็นสำคัญในร่างพระราชบัญญัติฯ มาให้อ่านกัน




1) สิทธิที่จะหายใจอากาศสะอาด

กฎหมายฉบับนี้จะสถาปนาสิทธิในการหายใจอากาศสะอาดของคนไทย และรัฐมีหน้าที่ต้องทำทุกทางให้ประชาชนได้มาซึ่งสิทธินั้น รวมถึงต้องเคารพ ปกป้อง และทำให้สิทธิที่จะหายใจอากาศสะอาดของเราเกิดขึ้นได้จริงอย่างสมบูรณ์กล่าวคือคนไทยทุกคนจะมีสิทธิพื้นฐานในการดำรงชีวิตด้วยอากาศที่ไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และไม่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร นอกจากนี้เราทุกคนจะมีสิทธิรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศและผลกระทบของคุณภาพอากาศที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ มีสิทธิในการมีส่วนร่วมกับรัฐในการกำหนดนโยบาย จัดทำกฎหมาย และกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาด รวมไปถึงมีสิทธิในการเข้าถึงและได้รับความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมด้วย


2) บูรณาการมิติสุขภาพและมิติสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน

เนื่องจากปัญหามลพิษทางอากาศส่งผลต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบาง อันได้แก่ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยทางเดินหายใจ และผู้ทำงานกลางแจ้ง คนกลุ่มนี้ควรต้องได้รับการดูแลจากรัฐเป็นพิเศษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้การดำเนินมาตรการต่าง ๆ ของรัฐต้องมาพร้อมการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) เสมอ


3) สร้างกลไกกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาด

เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพแท้จริง ควรต้องจัดให้มีคณะกรรมการในระดับนโยบาย ระดับกำกับดูแล และระดับปฏิบัติการ ที่ทำงานเชื่อมกับทั้งส่วนกลาง จังหวัด และเขตพื้นที่เฉพาะ เพื่อควบคุม ติดตาม ดูแล ตรวจสอบ และเร่งรัดการทำงานของหน่วยงานภาครัฐให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง


4) สร้างแรงจูงใจควบคู่ไปกับบทลงโทษ

ว่าด้วยการกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อเพิ่มหรือลดแรงจูงใจ หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในการเปลี่ยนแบบแผนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเครื่องมือที่น่าสนใจ เช่น ระบบฝากไว้ได้คืน การกำหนดและโอนสิทธิในการปล่อยหมอกควันพิษ การประกันความเสี่ยงในความเสียหายต่อระบบนิเวศที่ทำให้คุณภาพอากาศด้อยลง มาตรการอุดหนุนหรือส่งเสริมบุคคลหรือกิจกรรมสำหรับอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ ฯลฯ


5) มุ่งเน้นการจัดการร่วม (Co-management)

เชื่อมโยงระบบจัดการโดยรัฐเข้ากับระบบจัดการโดยชุมชน ซึ่งเรียกว่า “การจัดการที่มีชุมชนเป็นฐาน”โดยให้ชุมชนมีบทบาทหลักและรัฐมีบทบาทรอง ตั้งแต่การจัดทำนโยบาย การกำกับดูแล และการปฏิบัติการ ผลักดันกระจายอำนาจ (Decentralization) และการมีส่วนร่วมของประชาชน (Public Participation) โดยคำนึงมิติทางสุขภาพควบคู่กับมิติทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีอย่างสมดุลและยั่งยืน


6) เปิดช่องแก้ปัญหาในพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะ

กล่าวคือ การแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษต้องไม่ใช้วิธีการเดียวกันในทุกพื้นที่ ไม่ใช้สูตร one size fits all เนื่องจากแต่ละพื้นที่ล้วนมีเงื่อนไขเฉพาะและมีสาเหตุที่ต่างกัน ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาจึงต้องแตกต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น หมอกควันพิษในต่างจังหวัดมักเกิดจากการเผาป่าหรือเผาพื้นที่เกษตร ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับปัญหาในเขตเมืองที่มักเกิดจากยานพาหนะและภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น


7) มุ่งการบูรณาการเชิงระบบ (Integration)

เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานแบบต่างคนต่างทำ ทั้งระหว่างหน่วยงานรัฐ หรือระหว่างรัฐกับประชาสังคม เนื่องจากปัญหาหมอกควันพิษมีความเชื่อมโยงกับหลายภาคส่วน และสลับซับซ้อนเกินกว่าที่จะขับเคลื่อนด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ขอบเขตการบูรณาการของกฎหมายฉบับนี้ ยังหมายรวมถึงการบูรณาการระหว่างมิติสิ่งแวดล้อมกับมิติสุขภาพ ระหว่างแรงจูงใจกับบทลงโทษ และระหว่างสิทธิเชิงเนื้อหาและสิทธิเชิงกระบวนการของประชาชนด้วย


8) กำหนดหมวดหมอกควันพิษข้ามแดนเป็นการเฉพาะ

ความเป็นจริงทุกวันนี้คือ หมอกควันพิษที่เกิดในประเทศหนึ่งอาจส่งผลต่อประเทศรอบข้างได้อย่างรุนแรง จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขเยียวยาที่ชัดเจน เช่น ต้องกำหนดความผิดสำหรับเจ้าของหรือ

ผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดหมอกควันพิษที่อยู่นอกประเทศไทย แต่ทำให้หมอกควันพิษนั้นข้ามแดนมาสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยได้ เพราะที่ผ่านมาแม้เราและประเทศเพื่อนบ้านจะทำความตกลงระหว่างประเทศเรื่องหมอกควันพิษข้ามแดน ค.ศ.2002 (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution, 2002) แต่ก็ไม่สามารถบังคับใช้มาตรการใดอย่างจริงจังได้ ที่สำคัญกฎหมายในประเทศไทยเอง (เท่าที่มีอยู่) ก็ไม่มีฉบับใดที่บัญญัติมาตรการเรื่องหมอกควันพิษข้ามแดนเป็นการเฉพาะด้วย




Did You Know

“ร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …” โดยเครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย เป็นร่างกฎหมายของภาคประชาชนเพียงร่างดียว ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้ได้อย่างน้อย 10,000 รายชื่อเพื่อนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ถ้าคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้และสนใจสนับสนุน (ร่าง) กฎหมายอากาศสะอาดเพียงหนึ่งเดียวของพวกเรา คุณสามารถดูรายละเอียดขั้นตอนการร่วมลงชื่อได้ที่หน้าแรกของเว็บไซต์ Thai Clean Air Network มาร่วมมอบของขวัญให้พี่น้องคนไทยในปี พ.ศ.2567 ด้วยกัน


อ้างอิง
Thai Clean Air Network

SDGMove

Share
sharefbxx